By Artist Cheamcharoenpornkul
แผนการเล่นฟุตบอลยอดฮิตในศตวรรษที่ 21 อย่าง 4-2-3-1, 4-1-2-1-2, หรือ 4-3-1-2 ย่อมขาดผู้เล่นสำคัญในตำแหน่งกองกลางตัวรุกไปไม่ได้โดยเด็ดขาด เพราะนอกจากจะเป็นผู้เล่นที่ช่วยเปลี่ยนจังหวะจากเกมรับเป็นรุกในช่วงเวลาสำคัญ กองกลางตัวรุกยังมีหน้าที่สอดเข้าไปทำประตูในหลาย ๆ ครั้งอีกด้วย
วันนี้ 90MIN จะพาทุกท่านไปดูรายชื่อ กองกลางตัวรุก ของทีมชาติ อังกฤษ ที่อัดแน่นไปด้วยคุณภาพว่ามีใครกันบ้าง
9. เมสัน เมาท์ (แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด)
กองกลางดาวรุ่งวัย 24 ปี อดีตนักเตะที่หลายสื่อจับตามองว่าจะเป็นเพชรเม็ดงามของทีมชาติ อังกฤษ ในอนาคตอย่างแน่นอน แต่ดูเหมือนว่าเรื่องราวจะไม่ง่ายเสมอไป เมื่อ เมสัน เมาท์ ตัดสินใจย้ายจาก เชลซี ไป แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา
ซึ่งจนถึงปัจจุบัน เจ้าตัวยังหาฟอร์มเก่งของตัวเองไม่เจอ ประกอบกับอาการบาดเจ็บที่คอยตามรังควานตลอดทั้งซีซัน ดังนั้นคงจะยากหน่อยสำหรับมิดฟิลด์รายนี้ ในการจะมีชื่อไปเล่นฟุตบอล ยูโร 2024 ที่ เยอรมัน
8. ฮาร์วีย์ เอลเลียตต์ (ลิเวอร์พูล)
ฮาร์วีย์ เอลเลียตต์ เป็นหนึ่งในขุนพลทีม สิงโตคำราม ยู-21 ชุดแชมป์ ยูโร เมื่อปี 2023 ที่ผ่านมา และเขายังโชว์ฟอร์มได้อย่างไฉไลกับ ลิเวอร์พูล ในซีซันนี้อีกด้วย
แม้จะถูกดัดแปลงพันธุกรรมโดยการลงเล่นเป็น มิดฟิลด์ตัวกลาง ซะส่วนใหญ่ในปีนี้ แต่เจ้าหนู เอลเลียตต์ มีความสามารถในการเล่นเกมรุกได้หลากหลายตำแหน่ง ทั้ง กองกลาง, กองกลางตัวรุก, และตัวรุกริมเส้นฝั่งขวา ดังนั้นเขาจึงพร้อมเป็นผู้เล่นคนสำคัญที่ เซาธ์เกต น่าเหน็บติดทีมไปด้วยในทัวร์นาเม้นต์ใหญ่อย่าง ยูโร 2024
7. เอเบเรชี เอเซ (คริสตัล พาเลซ)
เอเบเรชี เอเซ เป็นอีกหนึ่งคนที่อยู่ในความสนใจของ แกเร็ธ เซาธ์เกต อย่างแน่นอน เพราะในฤดูกาลนี้ เจ้าตัวโชว์ฟอร์มได้สุดสะเด่ากับ คริสตัล พาเลซ โดยเฉพาะในช่วงท้ายของฤดูกาลที่เจ้าตัวพาทีมเก็บชัยชนะ 6 นัดรวดที่ได้ลงสนาม แถมเป็นเกมกับทีมใหญ่อย่าง แมนฯ ยูไนเต็ด และ ลิเวอร์พูล อีกด้วย
ความพิเศษของมิดฟิลด์ตัวรุกรายนี้คือ ความเร็วชนิดหาตัวจับยาก และ สเต็ปเท้าในการเลี้ยงบอลหลอกล่อคู่แข่งจนไปกันไม่เป็นมาหลายรายแล้ว ดังนั้นหากนายใหญ่ทีม สิงโตคำราม ต้องการนักเตะเท้าไฟเอาไว้เลี้ยงกินตัวคู่แข่ง เอเซ นี่แหละใช่เลย
6. มอร์แกน กิบส์-ไวต์ (น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์)
หลังพาต้นสังกัดอย่าง น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ รอดตกชั้น พรีเมียร์ลีก ได้อย่างฉิวเฉียดในปีนี้ มอร์แกน กิบส์-ไวต์ คืออีกหนึ่งนักเตะที่น่าจับตามอง แม้เจ้าตัวยังไม่เคยลงเล่นให้ทีมชาติ อังกฤษ ชุดใหญ่เลยแม้แต่เกมเดียวก็ตาม
ในซีซันนี้ มอร์แกน กิบส์-ไวต์ ถูกส่งลงเล่นในสนามในตำแหน่งที่แตกต่างกันถึง 6 ตำแหน่ง ไม่ว่าจะเป็น ตัวริมเส้นฝั่งซ้าย, ตัวริมเส้นฝั่งขวา, กองหน้าตัวเป้า, กองกลางตัวรุก, ปีกขวา, หรือแม้กระทั่ง มิดฟิลด์ตัวกลาง เขาก็เล่นมาแล้ว
5. คอเนอร์ กัลลาเกอร์ (เชลซี)
หลังได้รับโอกาสจาก เชลซี อย่างต่อเนื่อง กัลลาเกอร์ แสดงให้เห็นว่าเขาพัฒนาจนกลายเป็นนักเตะที่ดีพอจะลงเล่นในลีกสูงสุดของเกาะ อังกฤษ ถึงอย่างไรก็ตาม อนาคตของเจ้าตัวยังไม่นอนสักเท่าไรในถิ่น สแตมฟอร์ด บริดจ์ ซีซันหน้า
ความพิเศษของมิดฟิล์รายนี้คือความขยัน ทุ่มเทไล่บอลได้ไม่มีหมด และความเป็นผู้นำซึ่งมีประสบการณ์การสวมปลอกแขนกัปตันทีมกับ เชลซี หลัง รีซ เจมส์ บาดเจ็บจนต้องพักยาวทั้งซีซัน
กัลลาเกอร์ ยังเล่นได้หลากหลายตำแหน่งในแดนกลาง ซึ่งไม่ว่าจะรุกหรือรับ กัลลาเกอร์ พร้อมใส่สุดให้กับทีมอยู่เสมอ
4. โคล พาลเมอร์ (เชลซี)
เติบโตขึ้นมาจนกลายเป็นกำลังหลักของ เชลซี ได้ในเวลาไม่นาน พาลเมอร์ เป็นนักเตะที่เล่นได้ทั้งตัวริมเส้นด้านขวา และ กองกลางตัวรุก ความอันตรายของเขาคือเท้าซ้ายที่โยนและยิงได้อย่างแม่นยำ จนดาวเตะรายนี้คว้ารางวัล ดาวรุ่งยอดเยี่ยมของ พรีเมียร์ลีก ไปครองได้ในปีล่าสุด
นอกจากนี้ เจ้าตัวยังคว้าตำแหน่งรองดาวซัลโว พรีเมียร์ลีก ไปได้อีกด้วย จากการทำไปทั้งหมด 27 ประตูกับอีก 15 แอสซิสต์ ในทุกรายการ และยังมีจุดเด่นคือการสังหารจุดโทษได้อย่างเยือกเย็น ซึ่งอาจจำเป็นหากทีม สิงโตคำราม หลุดเข้าไปดวลเป้าในรอบลึก ๆ
3. เจมส์ แมดดิสัน (ท็อตแนม ฮอตสเปอร์)
ยังคงเป็นนักเตะที่ยอดเยี่ยมหลังย้ายซบ ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ เมื่อช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา น่าเสียดายที่ในช่วงกลางฤดูกาล เจ้าตัวประสบปัญหาอาการบาดเจ็บหนักจนฟอร์มการเล่นขาดช่วงไประยะหนึ่ง
อย่างไรก็ตาม จอมทัพอย่าง แมดดิสัน ยังเป็นส่วนสำคัญช่วยให้ทีม ไก่เดือยทอง จบอันดับ 5 ได้สำเร็จ ซึ่งถ้าหากวัดกันปอนด์ต่อปอนด์ แมดดิสัน เป็นผู้เล่นที่มีความคิดสร้างสรรค์ในการทำเกมมากที่สุดคนหนึ่งในทีมชาติ อังกฤษ ชุดนี้เลย บางทีหาก เซาธ์เกต ให้โอกาสเขาลงเล่นมากกว่านี้ ทีม สิงโตคำราม อาจได้ประตูจากลูกจ่ายสวย ๆ ของเขาหลายลูกก็เป็นได้
2. ฟิล โฟเด้น (แมนเชสเตอร์ ซิตี้)
ไม่น่าจะหลุดโผไปจากรายชื่อทีมชาติ อังกฤษ ตัวจริง ไม่ว่า แกเร็ธ เซาธ์เกต จะส่งเขาลงเล่นในตำแหน่งไหนก็ตาม เพราะ ฟิล โฟเด้น คือหนึ่งในผู้เล่นที่ครบเครื่องที่สุดของโลกฟุตบอลในขณะนี้ การันตีด้วยรางวัล ผู้เล่นยอดเยี่ยม พรีเมียร์ลีก ประจำฤดูกาล 2023/24
แม้จะลืมตาดูโลกได้เพียง 23 ปี แต่ดาวเตะอย่าง ฟิล โฟเด้น ลงเล่นในทัวร์นาเม้นใหญ่มาแล้วอย่างโชกโชน ไม่ว่าจะเป็น ฟุตบอลโลก, ฟุตบอล ยูโร, พรีเมียร์ลีก, รวมถึง ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ดังนั้นด้วยประสบการณ์และความฟิตของเขา ย่อมเป็นสิ่งที่ แกเร็ธ เซาท์เกต ไม่อาจปฏิเสธได้อย่างแน่นอน
1. จู๊ด เบลลิงแฮม (เรอัล มาดริด)
ไม่บ่อยนักที่ชื่อของนักเตะซึ่งค้าแข้งอยู่นอก พรีเมียร์ลีก จะปรากฎอยู่ในรายชื่อทีมชาติ อังกฤษ แต่สำหรับ จู๊ด เบลลิงแฮม หาก แกเร็ธ เซาธ์เกต ไม่เอาเขาไปด้วยนี่เป็นเรื่องอย่างแน่นอน เพราะถ้าว่ากันตามตรง ดาวเตะวัย 23 กะรัตคนนี้ คือดาวจรัสแสงคนใหม่แห่งวงการฟุตบอลในอนาคต
จู๊ด เบลลิงแฮม ยกระดับตัวเองขึ้นมาจากกองกลางดาวรุ่งของ ดอร์ทมุนต์ กลายเป็นผู้เล่นเวิร์ลคลาสของ เรอัล มาดริด ในระยะเวลาเพียงไม่ถึงหนึ่งซีซัน โดยเขามีคุณสมบัติทุกอย่างที่มิดฟิลด์ในยุคนี้ควรจะมี รวมทั้งความสามารถในการสอดแทรกขึ้นมาทำประตูได้ในช่วงเวลาสำคัญ คงไม่ต้องเถียงกันให้มากความสำหรับ จู๊ด เบลลิงแฮม กับโควต้าผู้เล่นทีม สิงโตคำราม ที่จะไปลุยศึกยูโร 2024
อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับบทความ ตัวเลือกทีมชาติอังกฤษ ได้ที่นี่
ต้นฉบับของบทความนี้เผยแพร่ภายใต้ 90min.com/TH ที่ชื่อ เปิดทางเลือกกองกลางตัวรุก ทีมชาติอังกฤษ ลุยศึก ยูโร 2024 - RANKED.
