By Thanyathep Sangkapong
ศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ฤดูกาล 2023/24 นัดชิงชนะเลิศ ระหว่าง เรอัล มาดริด กับ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ที่สุดท้ายเป็นฝั่ง ราชันชุดขาว ที่เอาชนะไปได้ด้วยสกอร์ 2-0
โดยนอกจากความเป็นไปของเกมแล้ว ในสนามยังมีความน่าสนใจอื่น ๆ ไม่แพ้กัน ซึ่งนั่นก็คือ แฟนบอลของ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ที่เข้ามาชมเกมนี้อย่างล้นหลาม และสิ่งที่ขาดไม่ได้สำหรับธรรมเนียมการเชียร์ของพวกเขาคือ “Yellow Wall” หรือที่เรารู้จักกันในนาม “กำแพงสีเหลือง” ซึ่งเป็นการแปรอักษรด้วยข้อความต่าง ๆ ของแฟนบอลบนแสตนด์เชียร์
นี่คือสิ่งที่เหล่าแฟนบอลของ เสือเหลือง ปฏิบัติต่อ ๆ กันมานานหลายปีแล้ว โดยวันนี้ 90min จะพาทุกท่านมาทำความรู้จักรวมถึงรับชมการแปรอักษรสุดคลาสสิคของแฟนบอล ดอร์ทมุนด์ ว่าเป็นอย่างไร สวยงามแค่ไหนและมีหน้าตาอย่างไรบ้าง
อะไรคือ “Yellow wall”
ที่สนาม ซิกนัลอิดูนาพาร์ค ของ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ เป็นอีกหนึ่งสนามของทวีปยุโรปที่สามารถจุแฟนบอลได้มากที่สุดอันดับต้น ๆ โดยสนามแห่งนี้สามารถจุแฟนบอลได้มากถึง 81,360 คน
หนึ่งในเอกลักษณ์อันโด่งดังของรังเหย้าทีม เสือเหลือง คือบริเวณอัฒจันทร์ฝั่งทิศใต้ที่ตั้งอยู่ด้านหลังประตูที่มีความยาวประมาณ 100 เมตร และมีความสูงประมาณ 40 เมตร สามารถจุแฟนบอลได้เกือบ 25,000 คน จนหากมองจากบนสนามขึ้นไปจะเหมือนกับกำแพงที่มีแต่สีเหลืองจนได้รับฉายาว่าเป็น “Yellow Wall”
ยิ่งไปกว่านั้นในการแข่งขันฟุตบอลนัดสำคัญหรือฟุตบอลถ้วยยุโรปอย่าง ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก พวกเขาก็จะมีธรรมเนียมกับการแปรอักษรรวมถึงสร้างภาพไวนิลสุดอลังการ เพื่อแสดงประวัติศาสตร์อันยิ่งใหญ่และแสดงความน่าเกรงขามของสโมสรแห่งนี้ อีกทั้งยังแสดงความเป็นหนึ่งเดียวและความรักที่มีต่อสโมสร
การแปรอักษร
"การแสดงความจงรักภักดี"
สืบเนื่องมาจากศึก บุนเดสลีกา ฤดูกาล 2011/12 ถือเป็นฤดูกาลที่น่าจดจำสำหรับ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ที่คว้าแชมป์ บุนเดสลีกา มาครองได้สำเร็จ
โดยก่อนเกมที่เอาชนะ โวล์ฟสบวร์ก 5-1 แฟนบอลได้นำธงรูปหัวกะโหลกขนาดยักษ์ที่มีโลโก้ ดอร์ทมุนด์ ออกมาด้านบน มีคำว่า "ดอร์ทมุนด์ จนกว่าฉันจะตาย" เขียนไว้ด้านล่าง เพื่อแสดงความขอบคุณสำหรับนักเตะและทีมงานที่ทุ่มเทให้กับสโมสร
"ฝันใหญ่"
ศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ฤดูกาล 2018/19 โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ โคจรมาพบกับทีมจาก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ อย่าง ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ ซึ่งในเกมแรกทาง เสือเหลือง แพ้ให้กับ ไก่เดือยทอง ขาดลอยด้วยสกอร์ 0-3 ซึ่งเป็นโอกาสยากที่จะคัมแบ็กกลับมา
ทำให้แฟนบอลตระหนักถึงสถานการณ์เช่นนี้จึงส่งกำลังใจให้กับนักเตะในเกมเปิดสนาม ซิกนัลอิดูนาพาร์ค ด้วยการแปรอักษรเป็นถ้วย ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก เมื่อปี 1997 จากแฟนบอลกว่า 2 หมื่นรายบนอัฒจันทร์ พร้อมข้อความแสดงถึงความสู้ไม่ถอย “เราจะกลับมาจนกว่าจะได้ชูถ้วยรอบสนามเหมือนปี 1997” อย่างไรก็ตามเกมนี้ ดอร์ทมุนด์ พ่ายให้กับ สเปอร์ส ด้วยสกอร์ 0-1
"ถ้วยที่ขาดไป"
โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ลงเล่นใน ยูโรปา ลีก ฤดูกาล 2015/16 และหลังจากผ่านรอบแบ่งกลุ่มเพื่อไปเจอกับ ปอร์โต้ แฟนบอลต่างอยากเห็นสโมสรถ้วยรางวัลนี้ที่พวกเขาไม่เคยได้รับเพื่อแสดงความปรารถนา แฟนบอลจึงได้เปิดเผยป้ายที่จำลองเหมือน หนังสือสติกเกอร์ พร้อมรูปภาพ ของถ้วยรางวัลต่าง ๆ ที่ ดอร์ทมุนด์ เคยคว้ามาในอดีต แต่สิ่งหนึ่งที่ขาดไป นั่นก็คือ ยูโรปา ลีก
แฟนบอลเรียกร้องให้ ดอร์ทมุนด์ "เก็บสะสมให้ครบ" แต่พวกเขาก็ต้องเจอความผิดหวัง เมื่อแชมป์ในปีนั้นตกไปเป็นของ เซบิยา
"การตามล่า"
ครั้งล่าสุดที่ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ คว้าแชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก คงต้องย้อนกลับไปเมื่อปี 1997 ซึ่งในฤดูกาล 2012/13 ทัพเสือเหลืองได้ผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศกับ บาเยิร์น มิวนิค ได้สำเร็จ
โดยหนึ่งในเกมที่น่าประทับใจก็คือการแข่งขัน ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก รอบ 8 ทีมสุดท้าย กับ มาลาก้า ซึ่งแฟนบอลได้แปรอักษรเป็นถ้วยรางวัลยูฟ่า ประกอบกับภาพไวนิลเป็นตัวละครทำกำลังท่าส่องกล้องมองหาถ้วยยุโรปใบนี้
อีกทั้งยังมีข้อความว่า "เรากำลังอยู่ในเส้นทางของถ้วยรางวัลที่หายไป " อย่างไรก็ตามในการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศ ดอร์ทมุนด์ พลาดท่าแพ้ให้กับ บาเยิร์น มิวนิค ด้วยสกอร์ 1-2 ส่งผลให้อดคว้าถ้วยใบนี้มาครอง
"สวัสดีรอบชิง"
ศึกฟุตบอล ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ฤดูกาล 2023/24 โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศเข้าไปดวลกับแชมป์ 14 สมัย อย่าง เรอัล มาดริด
อย่างไรก็ดี เกมนี้เหล่าแฟนบอลของ เสือเหลือง ก็ไม่พลาดที่จะเข้ามาเชียร์ทีมรักของตัวเองพร้อมแปรอักษรที่มีข้อความว่า “สวัสดีเรา ดอร์ทมุนด์ พวกเรากลับมาแล้ว" พร้อมโบกธงที่มีตราสโมสรติดอยู่ แต่สุดท้ายเกมนี้ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ พลาดท่าพ่ายให้กับ เรอัล มาดริด ไปด้วยสกอร์ 0-2
ต้นฉบับของบทความนี้เผยแพร่ภายใต้ 90min.com/TH ที่ชื่อ ทำความรู้จัก "The great Yellow Wall" กำแพงยักษ์สีเหลืองของ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ - FEATURE.
