เปิดปมในใจ ริโอ เฟอร์ดินานด์ กับการเล่นให้ทีมชาติอังกฤษที่ยังคงเป็นฝันร้ายมาจนถึงทุกวันนี้ - FEATURE

By Thanyathep Sangkapong

ริโอ เฟอร์ดินานด์ กองหลังทีมชาติอังกฤษเจ้าของแชมป์ พรีเมียร์ลีก 6 สมัยในช่วง 12 ปีที่อยู่กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด พร้อมติดทีมชาติไปทั้งหมด 81 นัด และกลายเป็นหนึ่งในกองหลังที่ยิ่งใหญ่ที่สุดตลอดกาลของ ปีศาจแดง

แต่ช่วงชีวิตของนักกีฬามันก็ต้องมีทั้งเรื่องดีและร้ายปะปนกันไปเป็นเรื่องธรรมดา โดย เฟอร์ดินานด์ ได้ออกมาเปิดเผยเรื่องในอดีตสมัยที่เขาไม่ถูกเรียกติดทีมชาติอังกฤษชุดลุยศึก ยูโร เมื่อปี 2000 ที่ผ่านมา

กองหลังทีมชาติอังกฤษรายนี้ไต่เต้าขึ้นมาจากทีมเล็ก ๆ อย่าง เวสต์แฮม ยูไนเต็ด และติดทีมชาติอังกฤษด้วยวัยเพียง 18 ปี โดยเขาประเดิมลงสนามให้ทีมชาติในปี 1997 แถมยังมีชื่อติดทีมอยู่ในทีมชุดลุยฟุตบอลโลกในปี 98 อีกด้วย

Mark Draper | Stu Forster/GettyImages

อย่างไรก็ดี เส้นทางนี้ของเขาก็หยุดชะงักลงใน 2 ปีถัดมา ในตอนนั้นเองผู้จัดการทีมชาติอย่าง เควิน คีแกน ตัดสินใจตัดชื่อของ ริโอ เฟอร์ดินานด์ ออกจากทีม ยูโร 2000 นี่ถือเป็นเหตุการณ์ที่ทำให้กองหลังรายนี้ได้จดจำไปตลอดชีวิตการค้าแข้ง

ริโอ เฟอร์ดินานด์ ให้สัมภาษณ์กับ Sunday Mirror ในปี 2010 ว่า “ความภาคภูมิใจของผมคือการที่ผมได้ลงเล่นให้ทีมชาติอังกฤษ แต่เมื่อผมไม่ได้อยู่ในทีมนั่นทำให้ผมรู้สึกแย่ ผมต้องทนนั่งดูการเล่นของทีมแม้ว่าผมจะรู้สึกว่าผมควรจะอยู่ที่นั่นก็ตาม”

“ผมจำช่วงปรีซีซั่นที่ตามมาหลังจากทัวร์นาเมนต์นั้นได้ ผมกำลังวิ่งไปรอบ ๆ สวนสาธารณะใกล้บ้านแม่กับ คาร์ล ลีเบิร์น ซึ่งเป็นเพื่อนของครอบครัว แต่ผมก็หนีไม่พ้นความรู้สึกแย่นี้ที่คิดวนไปเกี่ยวกับการพลาดโอกาสรับใช้ชาติในทัวร์นาเมนต์สำคัญแบบนี้”

“ผมกำลังเดินไปตามถนนโดยคิดว่าผู้คนคงจะมองว่า 'เขาไม่ได้อยู่ในทีมชาติอังกฤษอีกต่อไปแล้ว' และความลำบากใจนั้นกระตุ้นให้ผมทำงานหนักขึ้น”

“แต่แล้วผมก็ถามตัวเองว่า 'ผมทำงานหนักพอที่จะอยู่ที่นั่นหรือเปล่า?' ผมต้องเปลี่ยนวิถีชีวิตและการเปลี่ยนแปลงแนวทางการค้าแข้งไป ผมเริ่มฝึกซ้อมหนักขึ้นและคิดถึงฟุตบอลมากขึ้น”

“ช่วงเวลานั้นในปี 2000 เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ผมเป็นตัวผมจนถึงทุกวันนี้” ริโอ เฟอร์ดินานด์ กล่าว

Manchester United v Everton - Premier League | Alex Livesey/GettyImages

ด้วยผลกระทบของเหตุการณ์นี้ทำให้ในปีนั้น ริโอ เฟอร์ดินานด์ มีอาการจิตตกอยู่ช่วงนึ่ง ซึ่งส่งผลถึงฟอร์มการเล่นในสนามของเขาด้วย

ในปี 2000 ริโอ เฟอร์ดินานด์ ย้ายจาก เวสต์แฮม ไปร่วมทีมคู่แข่งอย่าง ลีดส์ ยูไนเต็ด ด้วยค่าตัวที่เป็นประวัติศาตร์ของเกาะอังกฤษ ณ เวลานั้นที่ 18 ล้านปอนด์ และช่วยให้ทีม ยูงทอง ผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ในฤดูกาลแรกตั้งแต่ย้ายมา

หลังจากทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมกับ ลีดส์ ยูไนเต็ด ก็ไปเข้าตาทีมยักษ์ใหญ่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่ยอมดึงตัวกองหลังทีมชาติอังกฤษรายนี้มาร่วมทัพ ซึ่งการย้ายมาครั้งนี้ก็ถือเป็นสถิติใหม่อีกครั้งในปี 2002

ภายใต้การแนะนำของ เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน เฟอร์ดินานด์ ยอดกุนซือแห่ง ปีศาจแดง ทำให้แข้งรายนี้ก้าวขึ้นมาอยู่ระดับแนวหน้าของ พรีเมียร์ลีก และประสบความสำเร็จพา แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด คว้าแชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ปี 2008 มาครองได้สำเร็จ

นอกจากจะคว้าแชมป์ลีกหลายรายการแล้ว นักเตะชาวอังกฤษยังได้รับเสนอชื่อให้ติดทีมยอดเยี่ยมแห่งปีของพรีเมียร์ลีก ที่แมนเชสเตอร์ อีกด้วย

หลังจากพลาดไปในปี 2000 ริโอ เฟอร์ดินานด์ กลับมาติดทีมชาติอังกฤษอีกครั้งในฟุตบอลโลกปี 2002 ซึ่งเขาเป็นหนึ่งในเซ็นเตอร์แบ็คตัวเลือกอันดับต้น ๆ ของทีม และหลังจากแขวนสตั๊ดในปี 2015 เฟอร์ดินานด์ ยังคงพูดถึงเหตุการณ์ดังกล่าวจนถึงทุกวันนี้ว่าเป็นเหมือน “ฝันร้าย” ที่ยังคงวนเวียนอยู่จิตใจของเขา...

England v Montenegro - EURO 2012 Qualifier | Mike Hewitt/GettyImages

อ่านบทความเพิ่มเติมเกี่ยวกับความเคลื่อนไหวของ แมนยู ได้ที่นี่

ต้นฉบับของบทความนี้เผยแพร่ภายใต้ 90min.com/TH ที่ชื่อ เปิดปมในใจ ริโอ เฟอร์ดินานด์ กับการเล่นให้ทีมชาติอังกฤษที่ยังคงเป็นฝันร้ายมาจนถึงทุกวันนี้ - FEATURE.